Source: dcinside.com English Translation: Zoe JKS แปลไทยและเรียบเรียง: Kate K-Gang www.jangkeunsukthailand.com
Q: คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าฮันเยริเป็น “นักแสดงหญิงที่ทำงานเข้าขากับคุณมากที่สุด” อะไรที่ทำให้คุณประทับใจเธอคะ?
ผมเป็นคนแรกในบรรดานักแสดงและทีมงานที่ได้รับบทเรื่องนี้ จริงๆ แล้วมีนักแสดงหญิงหลายคนเลยครับที่ถูกเสนอชื่อสำหรับบทนางเอกของเรื่อง ผู้กำกับโทรมาถามความคิดเห็นของผม ตอนนั้นผมกำลังเล่นสกีอยู่ ผมจึงหยุดเล่นทันที ถอดสกีออก นั่งลงบนหิมะ แล้วบอกผู้กำกับว่า “ผมชอบคุณฮันเยริที่สุด และอยากให้เธอเป็นคนรับบทนี้” ผมชอบความที่เธอตรงข้ามกับผมอย่างสิ้นเชิงครับ เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอแล้วประทับใจว่าคุณฮันเยริเป็นผู้หญิงที่เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายในและบอบบางมาก ผมอยากรู้ว่าเธอจะยอมรับผมได้ไหม ก็เลยเสนอชื่อเธอเป็นคนแรกครับ
Q: การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้างคะ?
ตอนอยู่ในกองถ่าย เราคุยเรื่องส่วนตัวกันเยอะมากครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยเรียกเธอว่า “นูน่า (พี่)”เลย ทุกคนเรียกผมว่า “นักแสดงจาง” และผมก็เรียกเธอว่า “นักแสดงฮัน” เรื่องนี้เธอเองก็เห็นด้วยว่า “เราไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย ฉันว่าแบบนี้ก็เหมาะแล้วค่ะ” ปกติเวลาที่คนเรามีบุคลิกแตกต่างกัน จะปะทะกันได้ง่าย แต่เราสองคนไม่เป็นแบบนั้นเลยครับ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เพราะเราเป็นคู่ที่ลงตัวมาก ซาโดชานเป็นตัวละครที่ทรงพลัง และเธอก็ยอมรับทุกอย่างด้วยความจริงใจ ผมจึงรู้สึกขอบคุณเธอมากๆ แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ พอถึงวันพุธซึ่งเป็นวันที่ละครเคยออกอากาศ ผมก็ยังนึกถึงและหวังว่าเธอจะสบายดีครับ
Q: หลังจากละครปิดกล้องไปแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
ระหว่างที่ถ่ายละคร ผมมีความคิดที่จะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ พอละครปิดกล้องผมก็ได้ไปตามที่คิดไว้ครับ ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะพ่อแม่ของผม และพวกท่านก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผม เราสามคนไปตีกอล์ฟกัน พูดคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ เป็นช่วงเวลาอิสระที่เงียบสงบและมีความหมายสำหรับผมมากเลยครับ ในอนาคตผมอยากจะไปเที่ยวที่อื่นๆ อีก อยากลองไปเที่ยวสถานที่ที่ผมยังไม่เคยไป ผมอยากสัมผัสประสบการณ์ทุกอย่างด้วยความรู้สึกในวัย 30 ถ้าได้ขับรถไปเองก็ยิ่งดีเลยครับ
Q: แผนงานต่อไปคืออะไรคะ?
“ไม่มีอะไร” ในตารางงานของผมเลยครับ ผมกะว่าถ้าได้พักสักระยะนึงก็คงดี อยากจะลองเดินช้าๆ ดูบ้าง นั่นแหล่ะครับแผนของผมในช่วงนี้
Q: พอมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมาจนกระทั่งตอนนี้ คุณคิดอย่างไรคะ?
ผมได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากคุณพ่อคุณแม่จนกระทั่งอายุ 10 ขวบ ตอนนั้นผมเริ่มทำงานเป็นนักแสดงเด็กแล้ว แต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยมากๆ ผมได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ได้รับอะไรต่อมิอะไรมากมาย และมีชีวิตวัยเด็กที่ม่ีความสุข ช่วงอายุ 10-20 ผมไม่ได้เป็นแค่ฝ่ายรับจากพวกท่านแล้ว พวกเราสามคนดำเนินชีวิตไปด้วยกัน ผมว่าเราใช้ชีวิตครอบครัวในแบบที่แตกต่างออกไปเพราะเราสามคนทำงานด้วยกันครับ
ผมไปเรียนต่างประเทศแล้วก็รู้สึกสนใจวงการบันเทิงญี่ปุ่น ผมมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น และเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย ในเวลานั้นผมเป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนก่อนจะพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงครับ พอช่วงอายุ 20-30 ผมก็วิ่งไปโดยไม่เคยเหลียวดูข้างหลังเลย ดังนั้นพอมานึกๆ ย้อนดู ไม่มีอะไรให้ผมต้องเสียใจครับ ผมได้ลองทำทุกอย่างที่อยากจะลอง ไม่รู้ว่ามันเพียงพอหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าทุกวันผมทำงานหนักจนกระทั่งไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ และผมก็วิ่งไปด้วยแรงทั้งหมดที่ผมมีครับ
ตอนนี้ผมอายุสามสิบกว่าแล้ว ผมอยากจะลองพยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นคนที่ไม่ได้มองภาพจากมุมมองของตัวเองเพียงคนเดียว และสามารถก้าวเดินไปพร้อมๆ กับคนอื่นรอบตัวได้ รวมถึงเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นแม้ว่าเขาจะมีความคิดแตกต่างกับผมอย่างสิ้นเชิงก็ตาม
Q: คิดว่าอะไรคือจุดเปลี่ยนของคุณคะ?
ผมว่า “You’re Beautiful” (ปี 2009 ช่อง SBS) เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมครับ ผมฝันที่จะได้เดบิวท์ที่ญี่ปุ่น นานมากแล้วที่ผมอยากจะเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ไม่ใช่แค่นักแสดงเพียงอย่างเดียว แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องจริงหลังจากที่ “You’re Beautiful” ออกอากาศ ผมได้ทำงานในประเทศต่างๆ ในหลายๆ ทวีป และฉายาที่ผมเคยหวังไว้ “เอเชียปริ๊นซ์” ก็กลายมาเป็นฉายาของจางกึนซอก ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจเลยครับสำหรับช่วงวัย 20 ของผม อนาคตข้างหน้าผมอยากทำงานและเปิดการแสดงในเอเชียให้มากขึ้นด้วยครับ
Q: คุณจะไม่สามารถพบปะแฟนๆ ไปอีกระยะหนึ่ง จะไม่เหงาแย่เหรอคะ?
เหงาแน่นอนครับ แต่ผมก็พยายามสนุกสนานกับทุกช่วงเวลาจนถึงตอนนี้ สมัยอายุ 20 ผมรู้สึกเครียดทุกครั้งที่ต้องวิ่งออกไป แต่พอเข้าสู่วัย 30 ก็เริ่มคิดว่าผมต้องยอมรับความโดดเดี่ยวให้ได้ด้วย การแสดงตัวตนอย่างเต็มที่เป็นสิ่งสำคัญ แต่ผมก็ตระหนักได้ว่าเวลาในการชาร์จแบตให้ตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ผมฟังเพลงหลากหลายแนว และดูการแสดงสดจากหลากหลายศิลปิน ผมต้องการเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ครับ ช่วงเวลาที่ผมไม่สามารถพบปะแฟนๆ ได้ ผมจะนั่งดูดีวีดีการแสดงสดของตัวเองเพื่อเช็คปฏิกิริยาของทุกคนที่มีต่อการแสดงของผม อะไรที่ทำให้พวกเขายิ้ม อะไรที่ทำให้พวกเขาหัวเราะ และตั้งตารอคอยเวลาที่เราจะได้พบกันอีกครั้งด้วยความตื่นเต้นครับ!
0 ความคิดเห็น